Last updated: 22 ก.พ. 2568 | 612 จำนวนผู้เข้าชม |
[English version below]
รีวิว 2025 Ducati Panigale V2 All New กับรถเดิมๆโรงงาน ท่อเดิมๆ เปลี่ยนแค่ยาง ที่ MM93 สามารถขี่เวลาต่อรอบ เทียบเท่า รถแข่ง 2024 V2 แต่งเต็ม ย้ำว่า MM93 ขี่ รถเดิม 120แรงม้า ไฟหน้าอยู่ครบ เปลี่ยนแค่ยางสนาม!!!
- ใหม่ทั้งคัน เครื่องยนต์ใหม่, เฟรมใหม่, ท่านั่งใหม่, จอแสดงผลใหม่, และความรู้สึกใหม่(มาก)
- เครื่องยนต์ L-twin ใหม่ ที่น้ำหนักเบาที่สุดที่ดูคาติเคยสร้างมา น้ำหนักแค่ 54.4kg น้ำหนักเบากว่า เครื่อง V2 เก่า -9.5kg!!!
- เป็น L-twin 90องศา เหมือนดูคาติปกติ แต่องศาวางเสื้อสูบ วางเป็น L แต่งัดขึ้น 20องศา ที่ทำให้การกระจายน้ำหนักดีขึ้น และสาเหตุที่ต้อง90องศา เพราะแรงกระทำสองศูนย์จะหักล้างแรงเหวี่ยงกันเอง ทำให้เป็นรถสองสูบที่ไม่ต้องใส่บาลานซ์เซอร์ให้เครื่องไม่สั่น แล้วไม่ต้องเพิ่มภาระโหลดให้กับเครื่องยนต์เหมือนรถ1-2สูบปกติทั่วไป
- 70% ของ แรงบิดสูงสุด มาตั้งแต่ 3,000RPM และ 80% ที่ 4,000RPM โดยปกติ รถที่แรงบิดมารอบต่ำ Redline มักจะตันไว และเสีย RPM ให้ลากในรอบสูง แต่ All New Panigale V2 ฉีกกฏออกไป แรงบิดมารอบต่ำ และมีรอบสูงให้ใช้!!!
- เครื่องยนต์ สมูทมาก ฟิวคล้าย 4สูบเรียง แต่มีแรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำ ส่วนตัวผมไม่เคยเจออารมณ์แบบนี้ในรถรุ่นไหนๆมาก่อน
- มีระบบวาล์วแปรผัน ในฝั่ง ไอดี เผาไหม้สะอาดขึ้น รองรับ Euro5+ กำลังแรงบิด มาตั้งแต่ต้นจดปลาย
- และใช้วาล์วไอดี แกนกลวงเพื่อไล่เบา และเปิดปิดได้ไว คายความร้อนได้ดีกว่า วาล์วแบบนี้มักเจอในรถแข่ง MotoGP และ F1
- เปลี่ยนจาก ระบบ วาล์ว DESMODROMIC มาเป็น ระบบสปริงค์วาล์ว แต่เลือกใช้วัสดุที่ทนต่อ High RPM ได้
- เปลี่ยนจาก สายพานราวลิ้นมาเป็น โซ่ราวลิ้น
- ค่า Service ถูกลงแน่นอน และยึดระยะการ Service ใหญ่ที่ห่างออกไป
- น้ำหนัก V2S 176kg V2 std 179kg (ไม่รวมน้ำมันเต็มถัง) พอๆกับ 400-500cc. น้ำหนักเบากว่าโฉมเก่า -17kg
- ถ้าตัวที่เป็น Ducati Performance แรงม้า แรงบิดเพิ่มขึ้นยกตาราง น้ำหนัก เบาลง -4.5kg
- เฟรม, ซัปเฟรม, สวิงค์อาร์ม, ล้อ เป็นอลูมิเนียมและเจาะรูไล่เบาทั้งหมด
- เฟรมเป็น Aluminum Monocoque และยังมีหน้าที่เป็นหม้อกรองอากาศด้วย ลดขนาดและพื้นที่ของตัวรถได้เยอะมาก
- เฟรม จะมีการเจาะรูที่ดูอลังการมาก เพื่อไล่เบา แต่เหตุผลหลักจริงๆแล้ว คือการเจาะรูเพื่อให้เฟรมยืดหยุ่นช่วยซับแรงกระแทกในขณะที่เราเข้าโค้ง ถ้าสังเกตุในV2ตัวเก่า เฟรมจะตัน แข็งแรงเกินไป จนไม่ให้ตัว ทำให้เวลาขี่ในสนาม รถจะมีอาการไม่พึงประสงค์ ออกมาเยอะ การเจาะรูเฟรมช่วยให้ลดอาการในส่วนนี้ได้มโหฬาร เป็นแนวคิดเดียวกับ Ducati Panigale V4 7G
- สวิงค์อาร์มขาคู่ ก็เจาะรู ดีไซน์คล้าย V4 7G ทำให้รถสมดุลย์ และลดอาการจังหวะเร่งออกโค้งได้มาก
- จุดเด่นของ Panigale V2 คือน้ำหนักที่เบามาก กับการกระจายน้ำหนักที่ ทำให้ขี่ดีขึ้นในทุกมิติ
- ช่วง เบรกดีขึ้น เพราะรถน้ำหนักเบา สามารถลึกได้มากกว่า โดยที่ใช้เบรกน้อยกว่า เพราะแรงส่งจากความเร็วน้อยกว่า แทบจะเข้าได้ลึกเหมือนพวก 400-500cc.เลย
- ช่วง ขาเข้าโค้ง รถพับและเลี้ยวเข้าได้ง่าย คอนโทรลไลน์ได้ง่ายกว่า
- ช่วงนอนรถอยู่กลางโค้ง รู้สึกมั่นใจมากขึ้น รู้สึกได้อย่างยิ่งใน มือใหม่ที่อยากเข่าเช็ดพื้น
- ช่วงออกโค้ง ด้วยแรงบิดที่มาในรอบต่ำ ไม่ต้องไล่รอบ ทำให้ออกโค้งได้ไวมากขึ้น
- V2s และ V2 Std ได้โช๊ค ขนาดเดียวกัน ระยะtravelเท่ากัน แต่ V2s ได้ Ohlins(ไม่ไฟฟ้า) หน้า-หลัง รวมถึงกันสะบัด V2 Std เป็นหน้า Marzocchi หลังเป็น KAYABA
- V2S ที่เบากว่าเพราะ ได้แบตลิเธียม
- ทั้ง V2 และ V2s ได้ คาลิปเปอร์เบรกเหมือนกัน คือ Brembo
- คาลิปเปอร์หน้า Brembo M50 ใช้งานในสนามได้ดี และไม่ตึงเกินไป ให้ความนุ่มนวล เวลาใช้ในถนน
- แฮนด์จับโช๊คเดิมยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้เดินทางไกลบนท้องถนนสบายขึ้น กรณีใช้งานในสนาม ถ้าเป็นมือใหม่ฝึกขี่จะทำให้รู้สึกคอนโทรลรถได้ง่าย ไม่ต้องโหนรถเยอะ อารมณ์กึ่งๆขี่ Naked bike แต่ไม่สูงเท่า Sport Touring ทั่วไป ในกรณีที่แอดวานซ์แล้ว มี Option ที่เป็น แฮนด์จับโช๊คต่ำ ให้ใส่ได้ รถออกแบบเว้ารองรับไว้ สามารถใส่ได้โดยที่ไม่ติดถังน้ำมัน ไม่ติดแฟริ่ง
- ยืนยันอีกครั้งว่าท่านั่งการขับขี่ ถ้าเป็นแฮนด์เดิมไม่ใช่ Sport touring เพราะพักเท้าเดิมก็ยกสูงสามารถนอนรถได้เยอะโดยที่พักเท้าไม่ติด และเบาะสูงสไตล์รถ Sport
- หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ เป็นจอสีTFT สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้ง่ายขึ้น
- ตอนนี้ Ducati Panigale V2s ที่ใส่ชุดของแต่ง Ducati Performance กลายเป็นรถซ้อม ให้กับ Pecco63 และ MM93 เรียบร้อย
สรุปสั้นๆอีกครั้ง Ducati Panigale V2 เป็นรถที่มีคาแรกเตอร์แบบใหม่ ไม่เหมือนรุ่นไหนๆ ที่เราเคยขี่กันมา ได้ความเบาเหมือนรถมอเตอร์ไซต์ 400-500cc. แต่เป็น ฟิวรถที่บาลานซ์ดี ได้ฟิวการเลี้ยวรถของรถใส่ยางหลังเบอร์190 กำลังมาในรอบต่ำ และมาต่อเนื่องยันรอบปลาย มีรอบให้ลากใช้งานในสนามได้ รถเลี้ยวง่ายบังคับคอนโทรลง่ายจนน่าตกใจ แรงม้าสูงสุดเปรียบเทียบกับ V2 รุ่นเก่า เหมือนจะน้อยลง แต่ฟิวขี่กลับให้ความรู้สึกที่รถเหมือนแรงกว่า เพราะแรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำ รถเสียอาการน้อยกว่าโฉมเก่ามากๆ
ในอดีต ในคลาส MID size Superbike ของดูคาติ มักจะเป็นอารมณ์คล้าย เอา V4 รุ่นใหญ่ มาลดสเปค แต่ใน Ducati Panigale V2 2025 ให้ความรู้สึกที่แต่ต่างกันออกไป เป็นคาแรกเตอร์ใหม่ แยกกันชัดเจนจริงๆ ถ้าคุณต้องการความสุดของที่สุดของเทคโนโลยีใน มอเตอร์ไซค์ Ducati Panigale V4 7G คือคำตอบ
แต่ในโจทย์ที่คุณอยากได้มอเตอร์ไซค์ Sport แล้วอยาดใช้งานในท้องถนน Panigale V2 จะให้ความคล่องตัวและสะดวกสบายกว่า ถ้าเรามองโจทย์การใช้งานในสนาม ขี่ซ้อม ถ้าให้แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้ายังขี่ความเร็วที่สนามช้างความเร็วต่อรอบ ยังไม่ต่ำกว่า 1:50 แล้วคุณใช้ V4 มาฝึก อาจจะพัฒนาได้ช้ากว่า การที่เอา V2 มาฝึก และในวันที่คุณสามารถขี่ V2 ต่ำกว่า 1:50 แล้วคุณเปลี่ยนมาใช้V4 คุณจะเร็วเป็นจรวดเลย อีกอย่างคือ ถ้าเอา V4 มาขี่ที่สนามขนาดกลาง อย่าง สนามพีระ, แก่งกระจาน หรือ ไทยแลนด์เซอร์กิตคุณจะใช้Performance ได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าเป็น V2 กับ สนามขนาดกลาง ความบันเทิงเกิดขึ้นแน่นอน นี่คือสาเหตุว่าทำไม Pecco63 และ MM93 ถึงเอา 2025 Ducati Panigale V2 มา ประจำการ เป็นรถซ้อม
อีกอย่างคือ นอกจาก Serviceถูกลงแล้ว ค่.าตัวก็.ถู.ก ลง(มาก)ด้วย โปรดติดตามกันต่อไป…. แม่เจ้า….พูดแล้วขนลุก!!!!
บทความ โดย BEnz_DBigbike
คลิปรีวิว เร็วๆนี้
—————————
2025 Ducati Panigale V2 All New Review
MM93 sets lap times on a stock Panigale V2 (with only race tires) equal to a fully tuned 2024 V2 race bike!
Yes, you read that right—Marc Márquez rode the all-new 2025 Ducati Panigale V2, completely stock from the factory (headlights included), with just a tire swap, and achieved lap times comparable to a fully modified 2024 V2 race bike!
What’s New?
• Completely redesigned: New engine, new frame, new riding position, new display, and an entirely new feel.
• New lightweight L-twin engine: The lightest L-twin Ducati has ever built, weighing just 54.4 kg—9.5 kg lighter than the previous V2 engine!
• 90-degree L-twin with improved weight distribution: The cylinders are tilted forward by 20 degrees, optimizing weight balance.
• Natural balance without a balancer shaft: The 90-degree V-twin design cancels out opposing forces, reducing vibrations without needing a balance shaft—unlike most 1- or 2-cylinder engines.
• Torque-rich and high-revving:
• 70% of max torque is available from just 3,000 RPM
• 80% is available at 4,000 RPM
• Unlike most high-torque engines that sacrifice top-end RPM, the new V2 delivers both low-end grunt and high-rev performance!
• Exceptionally smooth engine: Feels similar to an inline-four but with strong low-end torque—unlike anything Ducati has produced before.
• Variable valve timing on the intake side: Enhances combustion efficiency, meets Euro5+ emissions, and maintains strong torque throughout the rev range.
• Hollow-stem intake valves: Lightweight for quicker response and better heat dissipation—technology derived from MotoGP and F1.
• Switch from Desmodromic to spring valve system: Uses high-performance materials to handle high RPM.
• Timing belt replaced with a timing chain: Reduces maintenance costs and extends major service intervals.
Weight and Chassis
• Weight reduction:
• V2S: 176 kg (dry)
• V2 Standard: 179 kg (dry)
• 17 kg lighter than the previous model—comparable to 400-500cc bikes!
• Ducati Performance version:
• Increased power and torque
• engine is 4.5 kg lighter than the 2024 V2 model
• Lightweight chassis:
• Frame, subframe, swingarm, and wheels are all aluminum with weight-reduction cutouts.
• Aluminum monocoque frame also serves as an airbox, reducing overall size and weight.
• Frame cutouts enhance flexibility, improving cornering feedback—solving the previous V2’s overly stiff frame issue. Inspired by the Panigale V4 7G.
• New swingarm design mimics the V4 7G, improving balance and reducing instability during acceleration.
Handling & Performance
• Exceptional weight distribution: Makes the bike incredibly nimble in all riding conditions.
• Braking performance:
• Lighter weight means later braking with less effort.
• Can dive deep into corners like a 400-500cc bike.
• Corner entry:
• Flicks into corners with ease and is easier to hold the intended line.
• Mid-corner stability:
• Boosts confidence—especially helpful for beginners learning to drag knee.
• Corner exit:
• faster exits.
Suspension & Brakes
• Same suspension travel for both V2S and V2 Standard:
• V2S: Öhlins (non-electronic) front & rear + Öhlins steering damper
• V2 Standard: Marzocchi front & KYB rear
• Weight difference:
• V2S is lighter due to a lithium battery.
• Brakes:
• Brembo M50 calipers for both models.
• Track-ready stopping power with a smooth, controllable feel for street use.
Ergonomics & Usability
• Slightly higher clip-ons:
• More comfortable for long rides.
• Easier bike control for track beginners without excessive weight shift—feels almost like a naked bike.
• Advanced riders can opt for a lower clip-on option, designed to fit perfectly without interfering with the tank or fairings.
• Not a sport-touring setup:
• The standard footpegs are high enough for aggressive riding, and the seat height remains sporty.
• New TFT color display:
• More user-friendly interface for adjusting settings.
Bonus: Lower Cost, Lower Maintenance
• Cheaper service costs due to mechanical changes.
• More affordable price than before—stay tuned for official pricing!
Review by BEnz_DBigbike
Full video review coming soon!
#ducati #ducatithailand #DucatiAsiaPacific #panigalev2
19 มี.ค. 2568
22 ก.พ. 2568
18 มี.ค. 2568